• May 7, 2024

2 ปีสงครามยูเครน รัสเซียรุกหนักอัฟดีฟกา-ยูเครนสั่งถอนทหารออกจากเมือง!

สงครามยูเครนที่จะดำเนินมาเป็นเวลาครบ 2 ปีในอีกไม่กี่วันข้างหน้ากำลังเผชิญสถานการณ์ที่ท้าทายอย่างมาก หลังรัสเซียเปิดปฏิบัติการบุกโจมตีอย่างหนักหน่วงที่เมืองอัฟดีฟกาในแคว้นโดเนตสก์ทางภาคตะวันออกของยูเครนมาเป็นเวลาหลายเดือน ล่าสุด ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้ออกคำสั่งให้ทหารถอนกำลังออกจากอัฟดีฟกาแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กองทัพรัสเซียปิดล้อมได้ หลังสถานการณ์สู้รบเข้าสู่จุดวิกฤตในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

รัสเซียจ่อยึด “เมืองอัฟดีฟกา” หลังยูเครนสั่งถอนทัพ

สหรัฐฯ เตือน ยูเครนอาจเสียเมืองอัฟดีฟกาในโดเนตสก์ให้กับรัสเซีย

วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างงบสนับสนุนยูเครน

เมื่อวานนี้ช่วงเช้ามืดตามเวลาท้องถิ่น พลเอกโอเล็กซานเดอร์ ซูร์สกี ผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพยูเครนคนใหม่ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ได้ออกมาประกาศตัดสินใจถอนทหารออกจากเมืองอัฟดีฟกา โดยระบุว่า เป็นไปเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดล้อมของกองทัพรัสเซียและรักษาชีวิตของกำลังพล โดยทหารยูเครนจะถอยกลับไปตั้งรับบริเวณแนวป้องกันที่ดีกว่า

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพยูเครนเคยระบุไว้ว่า กองทัพยูเครนกำลังดำเนินมาตรการเพื่อรักษาสถานการณ์การสู้รบให้คงที่และรักษาตำแหน่งที่มั่นเอาไว้ ซึ่งการออกมาประกาศถอนกำลังออกจากพื้นที่ในอัฟดีฟกา เกิดขึ้นหลังสถานการณ์การสู้รบเข้าสู่จุดวิกฤตในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้อัฟดีฟกาคือพื้นที่ล่าสุดที่รัสเซียเปิดปฏิบัติการโจมตี หรือ offensive ใส่ยูเครน ถือเป็นการบุกโจมตียูเครนครั้งที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว โดยเริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

กองทัพรัสเซียเปิดฉากโจมตีด้วยรถถังหุ้มเกราะและทหารหลายพันนายไปยังที่นั่น พร้อมยกระดับการยิงปืนใหญ่ถล่มอัฟดีฟกาอย่างหนักหน่วงก่อนจะเปลี่ยนไปใช้ยุทธศาสตร์ส่งกองทหารราบขนาดเล็กเข้าไปต่อสู้ระยะประชิดในช่วงระยะหลัง หลังจากที่การโจมตีด้วยโดรนขนาดเล็กของยูเครนสามารถสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อรถหุ้มเกราะของรัสเซียได้ ขณะที่ยกระดับการทิ้งระเบิดอย่างหนักหน่วง

โดยสาเหตุที่รัสเซียเลือกเปิดแนบรบที่อัฟดีฟกา นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่ารัสเซียต้องการปิดล้อมเมือง ยึดโรงงานถ่านโค้ก ซึ่งรัสเซียเชื่อว่ากองทัพยูเครนใช้เป็นคลังสะสมอาวุธ รวมถึงต้องการใช้พื้นที่ในการโจมตีปั่นป่วนเส้นทางลำเลียงอาวุธของยูเครน นอกจากนี้ กองทัพรัสเซียยังต้องการผลักแนวรบเข้าไปในพื้นที่ที่อยู่ในการควบคุมของยูเครน เพื่อรุกคืบต่อไปในแคว้นโดเนตสก์และไม่ให้ยูเครนยึดแคว้นโดเนตสก์กลับคืนได้

การสู้รบที่เป็นไปอย่างหนักหน่วงตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้อัฟดีฟกาที่เคยมีประชากรอาศัยอยู่ราว 30,000 คน กลายเป็นเมืองร้างที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง เสียงดังสนั่นจากเสียงลั่นปืนทั่วทุกมุมเมือง และควันไฟที่คุกกรุ่นอยู่ตลอดเวลา

จนกระทั่งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา การป้องกันอัฟดีฟกาจากการรุกคืบของรัสเซียเป็นไปอย่างยากลำบากอย่างมาก เนื่องจากเสียเปรียบฝ่ายรัสเซียที่มีกำลังพลมากกว่า รักษาระดับการยิงปืนใหญ่ให้เหนือกว่าฝ่ายยูเครนได้ อีกทั้งยังสามารถควบคุมความได้เปรียบเหนือน่านฟ้าได้เช่นกัน

ขณะที่กองทัพยูเครนต้องเผชิญกับการขาดกระสุนอย่างหนัก สาเหตุหลักส่วนหนึ่งมาจากความล่าช้าในการจัดสรรและส่งอาวุธให้แก่ยูเครนของสหรัฐฯ ที่ยังไม่สามารถอนุมัติร่างกฎหมายความช่วยเหลือเพิ่มเติมมูลค่า 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต

สถานการณ์การสู้รบในอัฟดีฟกาที่เข้าสู่จุดวิกฤตจึงทำให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพยูเครนออกมาประกาศถอนกำลังเพื่อเตรียมตั้งรับบริเวณแนวป้องกันที่พร้อมกว่าล่าสุด กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกมาระบุว่า เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียได้แจ้งต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแล้วว่า กองทัพรัสเซียสามารถควบคุมเมืองอัฟดีฟกาได้ทั้งหมดแล้ว

อย่างไรก็ดี สถาบันเพื่อการศึกษาสงครามหรือ ISW รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากบล็อกเกอร์สายทหารของรัสเซียว่า ยังเหลือพื้นที่บางส่วนบริเวณชานเมืองทางตะวันตกที่กองทัพรัสเซียไม่ได้สามารถควบคุมได้

เซเลนสกีประชุมด้านความมั่นคงมิวนิก

การขาดกระสุนจนนำไปสู่ความเพลี่ยงพล้ำของกองทัพยูเครนที่อัฟดีฟกาทำให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการเข้าร่วมประชุมด้านความมั่นคงมิวนิคที่ประเทศเยอรมนีออกมาแถลงเรียกร้องให้ชาติพันธมิตรตะวันตกเร่งส่งอาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อให้ยูเครนใช้ปกป้องดินแดนจากการรุกรานของรัสเซีย

โดยระบุกดดันอ้อมๆ ไปที่สหรัฐฯ ว่า การปล่อยให้ยูเครนขาดอาวุธ ทั้งๆ ที่สามารถช่วยให้ไม่ขาดได้ มีแต่จะทำให้ประธานาธิบดีปูตินได้เปรียบในสงคราม

ขณะนี้ ร่างความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้แก่ยูเครนและชาติพันธมิตรทั่วโลกของสหรัฐฯ ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาไปแล้วเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

แต่ก่อนที่จะส่งให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามเพื่อตราออกมาเป็นกฎหมายได้ ร่างฉบับนี้จะต้องผ่านการลงมติเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรก่อน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นไปอย่างยากลำบาก เมื่อพรรครีพับลิกันโดยเฉพาะปีกที่มีจุดยืนใกล้เคียงกับโดนัลด์ ทรัมป์ ครองเสียงข้างมากอยู่ในสภา

ขณะที่ด้านประธานาธิบดีไบเดนเคยออกมาส่งเสียงกดดันสภาผู้แทนราษฏรให้ผ่านร่างหลายครั้งแล้ว ล่าสุด ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมายืนยันอีกครั้งว่า มั่นใจว่าสหรัฐฯ จะสามารถส่งความช่วยเหลือให้แก่ยูเครนได้ หลังจากที่ต่อสายคุยกับประธานาธิบดีเซเลนสกี และได้ตอบคำถามต่อนักข่าวว่า เขาจะสู้อย่างถึงที่สุดเพื่อให้ยูเครนได้รับสิ่งที่ต้องการในการปกป้องประเทศ

ผู้ช่วย"นาวาลนี"กล่าวหารัสเซียเลี่ยงส่งคืนร่าง

คำสั่งถอนทหารออกจากเมืองอัฟดีฟกา เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันกับการเสียชีวิตในเรือนจำที่ขั้วโลกเหนือของ ‘อเลกซี นาวาลนี’ นักการเมืองฝ่ายค้านคู่ปรับของประธานาธิบดีปูติน

เมื่อวานนี้ คีรา ยามิช โฆษกประจำตัวของอเลกซี นาวาลนี ได้ออกมาแถลงยืนยันการเสียชีวิตของนาวาลนีแล้ว หลังหน่วยงานราชทัณฑ์รัสเซียออกมาประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า นาวาลนีเสียชีวิตลงจากอาการหมดสติอย่างไรก็ดี โฆษกของนาวาลนีระบุว่า เขาถูกสังหาร และได้เรียกร้องให้ทางการรัสเซียส่งร่างของนาวาลนีคืนแก่ครอบครัวทันที

หลังจากที่ ลุดมิลา นาวาลนายา มารดาของนาวาลนีและทนายไม่สามารถเข้าพบร่างของนาวาลนีที่ห้องดับจิต ซึ่งมีที่ตั้งใกล้กับทัณฑนิคม IK-3 ในภูมิภาคยามาล-เนเน็ตส์ใกล้ขั้วโลกเหนือของรัสเซียทัณฑนิคม IK-3 หรือ “โพลาร์วูล์ฟ” คือสถานที่คุมขังสุดท้ายของนาวาลนีก่อนเสียชีวิตลง ก่อนหน้านี้เขาถูกตัดสินให้จำคุกรวมกว่า 30 ปีจากข้อหาต่างๆ ที่มีแรงจูงใจทางการเมือง

โฆษกของนาวาลนียืนยันการเสียชีวิตโดยอ้างอิงจากข้อความที่มารดาของนาวาลนีได้รับข้อความแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานเมื่อวันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ เวลา 14.17 นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากนั้น มารดาและทนายของนาวาลนีก็ได้เดินทางไปยังเรือนจำ IK-3 ช่วงเวลา 11.00 น. ของเมื่อวานนี้ และรออยู่เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะบอกว่าร่างของนาวาลนีอยู่ที่เมืองซาเลกฮาร์ดใกล้กับเรือนจำ เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนกำลังดำเนินการชันสูตรพลิกศพ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดินทางไปถึง มารดาและทนายของนาวาลนีไม่ได้พบร่างของนาวาลนี เนื่องจากสถานที่เก็บร่างปิดทำการก่อน มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำได้แจ้งต่อมารดาและทนายของนาวาลนีว่า จะต้องชันสูตรร่างของนาวาลนีอีกรอบ เนื่องจากไม่สามารถสรุปผลจากการชันสูตรรอบแรกได้นาวาลนีเสียชีวิตจากเหตุใดกันแน่นี่ทำให้ทีมงานของนาวาลนีออกมาระบุว่า ทางการรัสเซียจงใจพยายามหลีกเลี่ยงไม่ส่งคืนร่างของนาวาลนี เพื่อปกปิดร่องรอย พร้อมเรียกร้องให้ส่งคืนร่างแก่ครอบครัวทันที

อเลกซี นาวาลนี ถือเป็นนักการเมืองฝ่ายต่อต้านที่เขย่าอำนาจของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินได้มากที่สุด จนสื่อตะวันตกหลายสำนักขนานนามว่า เขาคือชายที่ประธานาธิบดีรัสเซียหวาดกลัวมากที่สุด ที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวรณรงค์ต่อต้านคอร์รัปชัน เปิดโปง และวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลประธานาธิบดีปูติน ทำให้เขาได้รับความนิยมในหมู่ชาวรัสเซียอย่างมาก

องค์กรสิทธิฯ เผยตร.จับกุมปชช.อาลัยนาวาลนี

หลังการเสียชีวิตของนาวาลนี ประชาชนชาวรัสเซียได้ออกมาแสดงความอาลัยในหลายพื้นที่ แห่งหนึ่งคือที่กรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย

เมื่อวานนี้ ผู้คนได้นำดอกไม้และรูปภาพของนาวาลนีไปวางที่บริเวณอนุสาวรีย์ “กำแพงแห่งความโศกเศร้า” หรือ “Wall of Grief” อนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการปราบปรามทางการเมืองในสมัยสหภาพโซเวียต ท่ามกลางการควบคุมของตำรวจ

ผู้ที่มาร่วมแสดงความอาลัยต่อการจากไปของนาวาลนีรายหนึ่งระบุว่า เธอต้องมา เพราะที่ผ่านมานาวาลนีต่อสู้เพื่อพวกเขา ขณะที่อีกรายระบุว่า เขามาเพราะรู้สึกเศร้าที่ชายผู้เคยเป็นความหวังในการเปลี่ยนแปลงอนาคตของรัสเซียได้จากไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าตำรวจของกรุงมอสโกได้จับกุมผู้ที่มาแสดงความอาลัยต่อนาวาลนีอย่างน้อย 39 คน อีกพื้นที่ที่มีการไว้อาลัยและพบการจับกุมจำนวนมากคือที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดย OVD-Info หน่วยงานอิสระด้านสิทธิมนุษยชนของรัสเซียระบุว่า มีผู้ถูกตำรวจจับกุมอย่างน้อย 109 คน ส่วนจำนวนผู้ถูกจำกุมจากทั้งหมด 32 เมืองทั่วประเทศมีตัวเลขรวมอยู่ที่ประมาณ 300 คน