ไบเดน เรียก “สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีนว่าเผด็จการ
อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายเริ่มเห็นสัญญาณบวกขึ้นมาบ้าง หลัง “แอนโทนี บลิงเคน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางไปจีนเพื่อเข้าพบกับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน
การพบกันล่าสุดถือเป็นการเยือนจีนครั้งแรกในรอบ 5 ปีของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แต่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับเรียกผู้นำจีนว่า “เผด็จการ” คำกล่าวนี้มีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่บลิงเคนเพิ่งไปเยือนจีน
ลูกชายไบเดนสารภาพคดีภาษี-ครอบครองปืน หลังสอบสวนนาน 5 ปี
เสียงเอกฉันท์! “สี จิ้นผิง” อยู่ต่ออีก 5 ปี ดำรงตำแหน่งผู้นำจีนสมัย 3
ในระหว่างงานระดมทุนที่รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ( 20 มิ.ย.) ประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” กล่าวถึงบอลลูนจีนที่ถูกพบเหนือน่านฟ้าสหรัฐอเมริกาในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า สาเหตุที่ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ของจีนอารมณ์เสียอย่างมาก เมื่อสหรัฐฯ ยิงบอลลูนจีนที่บรรทุกกล่องใส่อุปกรณ์สอดแนม 2 กล่องตกลงมา เนื่องจากผู้นำจีนไม่ทราบว่าบอลลูนลอยอยู่ตรงนั้น
ไบเดนยังกล่าวด้วยว่า ถือเป็นเรื่องน่าอับอายอย่างยิ่งสำหรับเผด็จการ เมื่อพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และบอลลูนดันไม่อยู่ในที่ที่ควรอยู่ แต่กลับถูกลมพัดออกนอกเส้นทางไป
คำกล่าวของไบเดนมีขึ้น 1 วัน หลังจากที่ “แอนโทนี บลิงเคน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เพิ่งจะเข้าพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในระหว่างการเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 2 วันคำพูดจาก เว็บสล็อตตรง
ทริปเยือนจีนของบลิงเคนยังเกิดขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่เย็นชาและตึงเครียด ตั้งแต่เหตุการณ์บอลลูนจีนที่ลอยเหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ ประเด็นไต้หวัน ไปจนถึงการผลิตและส่งออกเซมิคอนดักเตอร์
โดย บลิงเคน ถือเป็นเจ้าหน้าที่ทางการทูตระดับสูงที่สุดของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนจีนนับตั้งแต่ปี 2018 หรือในรอบ 5 ปี หลังการหารือร่วมกัน ทั้งสองเห็นพ้องกันว่า สหรัฐฯ และจีนจำเป็นต้องสร้างความมั่นคงทางความสัมพันธ์ รวมถึงสร้างความมั่นใจว่าการแข่งขันของทั้ง 2 ชาติจะไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง
แม้หลายฝ่ายมองว่า ทริปเยือนจีนของบลิงเคนไม่ได้มีความก้าวหน้าหรือเปลี่ยนแปลงปฏิสัมพันธ์ใดๆ ต่อกัน แต่อย่างน้อยที่สุด ผลลัพธ์ที่น่าพอใจคือการเปิดช่องทางการสื่อสารระหว่างกันมากขึ้นเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางทหาร
ขณะที่ ไบเดนก็แสดงความเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง และมีความคืบหน้าจากทริปเดินทางเยือนจีนของบลิงเคน
แต่เมื่อวานนี้ นอกจากไบเดนเรียกสี จิ้นผิงว่าเผด็จการแล้ว ไบเดนยังกล่าวว่า ประธานาธิบดีสีกังวลเกี่ยวกับกลุ่มควอด (Quad) กลุ่มความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ที่ประกอบด้วยญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินเดีย และสหรัฐฯ ว่าจะปิดล้อมจีนทางทะเล แม้ก่อนหน้านั้นไบเดนจะยืนยันว่าไม่มีเป้าหมายที่จะทำเช่นนั้น
ทั้งนี้ ปลายสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ประธานาธิบดีไบเดนมีกำหนดการหารือกับนายกรัฐมนตรีอินเดีย คาดว่าประเด็นจีนจะเป็นหนึ่งในหัวข้อหารือนี้ด้วย
ล่าสุดจีนได้มาตอบโต้เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว “เหมา หนิง” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า จีนไม่พอใจอย่างมากและขอต่อต้านอย่างหนักแน่นเกี่ยวกับคำกล่าวที่ผู้นำสหรัฐฯ เรียกประธานาธิบดีสีว่าเป็นเผด็จการ รวมถึงคำกล่าวนี้ยังเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีทางการเมืองของจีนอย่างร้ายแรง
อีกหนึ่งสถานการณ์ที่เป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ คือ ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ขณะนี้กำลังถูกกระทรวงยุติธรรมสืบสวนในคดีเลี่ยงภาษีและคดีครอบครองปืนแบบผิดกฎหมายขณะเสพยาเสพติด หลังสอบสวนเรื่องนี้นานถึง 5 ปี เมื่อวานนี้ได้ข้อสรุปแล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักอัยการสหรัฐฯ ในรัฐเดลาแวร์ได้ยื่นเอกสารต่อศาลของรัฐบาลกลาง ที่ระบุว่า “ฮันเตอร์ ไบเดน” ลูกชายของประธานาธิบดีไบเดนได้บรรลุข้อตกลงกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เกี่ยวกับคดีเลี่ยงภาษีและคดีครอบครองปืนแบบผิดกฎหมาย
ในข้อหาเลี่ยงจ่ายภาษี ลูกชายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ได้จ่ายภาษีราว 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3 ล้าน 5 แสนบาท ให้ทันตามกำหนดเวลาในปี 2017 และปี 2018 ตามกฎหมายกลาง เขาอาจต้องโทษจำคุก 1 ปี
ในข้อตกลงกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ฮันเตอร์ตกลงที่จะสารภาพผิดในคดีดังกล่าว และเข้าสู่ระบบภาคทัณฑ์ตามกระบวนการยุติธรรมสหรัฐฯ ทำให้เขาอาจไม่ต้องได้รับโทษจำคุกแต่อย่างใด สำหรับข้อหาครอบครองอาวุธปืนแบบผิดกฎหมายขณะเสพยาเสพติดนั้น “คริสโตเฟอร์ คลาร์ก” ทนายความของฮันเตอร์ ไบเดนระบุว่า ฮันเตอร์เคยครอบครองปืนพกพิเศษ Colt Cobra 38 นาน 11 วันในช่วงตุลาคมปี 2018 ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่ฮันเตอร์มีปัญหาเรื่องยาเสพติด
ตามกฎหมายกลางของสหรัฐฯ ผู้ที่มีปัญหาด้านยาเสพติดและครอบครองอาวุธปืนนับว่ามีความผิด และอาจถูกตัดสินโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี อย่างไรก็ตาม ทนายความของฮันเตอร์ กล่าวว่า ข้อหาครอบครองอาวุธปืนจะอยู่ภายใต้ “การเบี่ยงเบนคดีก่อนการพิจารณาในชั้นศาล” ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ผู้ต้องหาทำร่วมกับอัยการว่าจะปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ เช่น เข้ารับบำบัดการติดยาเสพติด หากปฏิบัติตามครบถ้วน อัยการก็จะไม่ฟ้องร้องในคดีนั้น
นั่นหมายความว่า ฮันเตอร์จะไม่ต้องสารภาพผิดต่อข้อหาครอบครองปืน แต่ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงที่ทนายความของเขาและอัยการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ทำร่วมกัน โดยฮันเตอร์ต้องยุติการใช้ยาเสพติดไปอีก 2 ปีและจะต้องไม่มีอาวุธในครอบครองอีก
ทั้งนี้ข้อตกลงดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติโดยศาลของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ก่อน โดยคาดว่าทั้งสองคดีนี้ฮันเตอร์จะขึ้นให้การต่อศาลในรัฐเดลาแวร์เร็วๆ นี้
หลังข่าวเรื่องลูกชายออกมา ประธานาธิบดีไบเดนก็ถูกถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ในการประชุมกับผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ผู้นำสหรัฐฯ ตอบแค่ว่า เขาภูมิใจในตัวลูกชายมาก
ข้อตกลงระหว่างฮันเตอร์ ไบเดนกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝั่งพรรครีพับลิกันอย่างหนัก โดยมองว่าข้อตกลงดังกล่าวว่าแตกต่างจากสิ่งที่โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องเผชิญอย่างมาก
“เควิน แมคคาร์ธี” ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ของพรรครีพับลิกันกล่าวประณามกระทรวงยุติธรรมว่า นี่แสดงให้เห็นว่าสหรัฐ ยังมีระบบแบบ 2 มาตรฐานอยู่
ฮันเตอร์ ไบเดน วัย 53 ปี เป็นลูกชายของประธานาธิบดีไบเดนกับนีเลีย ไบเดน ภรรยาคนแรก
เมื่อปี 2021 เขาเคยเปิดเผยว่าตนเผชิญกับปัญหารุมเร้า รวมถึงมีปัญหาติดยาเสพติดและติดแอลกอฮอล์อย่างหนัก ซึ่งมาจากบาดแผลทางจิตใจหลังเผชิญอุบัติเหตุรถชนในปี 1972 ส่งผลให้แม่ของเขาเสียชีวิต แต่เขารอดมาได้ โดยในตอนนั้นฮันเตอร์อายุเพียง 2 ขวบเท่านั้น รวมถึงเหตุการณ์หลังจากที่ โบ ไบเดนพี่ชายของเขาเสียชีวิตจากโรคมะเร็งในปี 2015 ส่วนเรื่องคดีความต่างๆ
ฮันเตอร์ถูกสอบสวนเรื่องธุรกิจส่วนตัวและการจ่ายภาษี รวมถึงการครอบครองปืนอย่างผิดกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2020 ทั้งนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฮันเตอร์มักตกเป็นเป้าโจมตีจากทรัมป์และสมาชิกพรรครีพับลิกัน โดยเขาถูกกล่าวโทษว่า ทำธุรกิจแบบผิดกฎหมายในยูเครนและจีน โดยอ้างชื่อพ่อของตนเองในการตกลงทำธุรกิจมูลค่ามหาศาล รวมถึงการคอร์รัปชันและการฟอกเงินด้วย